โรคกระดูกพรุน: ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) คือภาวะที่กระดูกในร่างกายมีความหนาแน่นลดลง และมีโครงสร้างที่เปราะบางกว่าปกติ ทำให้เสี่ยงต่อการหักหรือร้าวได้ง่าย แม้จากแรงกระแทกเพียงเล็กน้อย เช่น การลื่นล้มเล็กน้อย หรือแม้แต่การจามหรือไอแรง ๆ

ทำไมโรคกระดูกพรุนถึงอันตราย?

หนึ่งในปัญหาของโรคกระดูกพรุนคือ มักไม่มีอาการแสดงในระยะแรก ผู้ป่วยหลายคนไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็น จนกระทั่งเกิด “กระดูกหัก” ขึ้นอย่างกะทันหัน เช่น กระดูกสะโพก ข้อมือ หรือกระดูกสันหลัง ซึ่งอาจทำให้พิการหรือเสียชีวิตได้ในรายที่สูงอายุ

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

มีหลายปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน เช่น

  • อายุที่มากขึ้น : โดยเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 50 ปี

  • การหมดประจำเดือนในผู้หญิง : เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงอย่างรวดเร็ว

  • ขาดแคลเซียมและวิตามินดี : ทำให้ร่างกายสร้างกระดูกได้น้อยลง

  • การไม่ออกกำลังกาย : โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทก (weight-bearing exercise)

  • พฤติกรรมเสี่ยง : สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

  • โรคประจำตัวบางชนิด : เช่น ไทรอยด์ทำงานเกิน โรคไตเรื้อรัง หรือการใช้ยาสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน

อาการของโรคกระดูกพรุน

โดยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการจนกว่าจะเกิดกระดูกหัก แต่บางรายอาจเริ่มมีอาการดังนี้:

  • ปวดหลังเรื้อรัง โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลัง

  • ส่วนสูงลดลง

  • หลังค่อมหรือมีลักษณะหลังโก่ง

  • กระดูกหักง่ายกว่าปกติ

การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการตรวจวัด ความหนาแน่นของมวลกระดูก (Bone Mineral Density: BMD) ด้วยเครื่อง DEXA scan ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานในการประเมินภาวะกระดูกพรุน

แนวทางการรักษา

  1. ปรับพฤติกรรม : รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม เต้าหู้ ปลาตัวเล็กทั้งกระดูก และรับวิตามินดีจากแสงแดดยามเช้า

  2. ออกกำลังกาย : เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ โยคะ หรือพิลาทิส เพื่อกระตุ้นการสร้างกระดูก

  3. การใช้ยา : แพทย์อาจพิจารณาให้ยาชะลอการสลายของกระดูก หรือยาที่ช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูก

  4. ป้องกันการหกล้ม : โดยปรับสิ่งแวดล้อมในบ้านให้ปลอดภัย เช่น ปูพรมกันลื่น มีราวจับในห้องน้ำ

วิธีป้องกันโรคกระดูกพรุน

  • รับแคลเซียมวันละ 1,000–1,200 มิลลิกรัม และวิตามินดีอย่างเพียงพอ

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงวัยทอง

  • หลีกเลี่ยงบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

  • ตรวจมวลกระดูกตามคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

 โปรแกรมฉีดยารักษาโรคกระดูกพรุน

    โปรแกรมฉีดยารักษาโรคกระดูกพรุน (Prolia) คือยาฉีดชนิดหนึ่งที่ใช้รักษาโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดกระดูกหัก เช่น ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ผู้ป่วยที่ได้รับยาสเตียรอยด์ หรือผู้ที่มีปัญหาทางกระดูกอื่น ๆ

    มีตัวยาสำคัญชื่อ Denosumab ออกฤทธิ์โดยไปยับยั้งการทำงานของเซลล์ที่ทำลายกระดูก(osteoclast) ทำให้กระดูกเสื่อมช้าลงและกระตุ้นให้มวลกระดูกเพิ่มขึ้น โดยจะฉีดใต้ผิวหนัง (subcutaneous injection) ทุก 6 เดือน (ปีละ 2 ครั้ง)

ประสิทธิภาพของ Prolia

  • ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก (BMD) ได้อย่างชัดเจน

  • ลดความเสี่ยงกระดูกสันหลังหักได้ถึง 68%

  • ลดโอกาสกระดูกสะโพกหักได้ถึง 40%

  • เริ่มเห็นผลในช่วง 3 เดือนแรก และควรใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด